วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


 






เอเซียนเกมส์  2010

ตะกร้อชาย-หญิงไทยซิวชัย รวมพลังเบิ้ลทองประเภททีม ทีมเซปักตะกร้อชาย-หญิงไทย สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ในการเเข่งขันประเภททีมชุดของศึก "เอเชียนเกมส์ 2010" ที่กรุงกว่างโจว ประเทศจีน โดยทีมหญิง เอาชนะ สาวจีน 2-0 ทีม ส่วนทีมชายชนะ มาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาล 2-0 ทีมเช่นกัน

ทีมเซปักตะกร้อสาวไทย จัดการคว้า เหรียญทอง มาครองได้เป็นที่เรียบร้อยเเล้วในการเเข่งขันประเภททีมชุดของศึก "เอเชียนเกมส์ 2010" ที่กรุงกว่างโจว ประเทศจีน หลังจากที่สามารถเอาชนะ ทีมสาวจีน ไปได้ขาดลอย 2-0 ทีม โดยใน ชุดเอ เอาชนะไปได้ก่อน 2-0 เซ็ต ด้วยสกอร์ 21-10, 21-16 ขณะที่ ชุดบี เอาชนะไปอีก 2-0 เซ็ต ด้วยสกอร์ 21-17, 21-11

ทีมชุดเอ ประกอบด้วย ดารณี วงศ์เจริญ ยืนเป็นหน้าขวา, เเก้วใจ พุ่มสว่าง ยืนเป็นหน้าซ้าย เเละเเบ็คเป็น วันวิสาข์ จันทร์เเก่น โดยรูปเกมในเซ็ตเเรกทั้งคู่เริ่มต้นได้อย่างใกล้เคียงกันจนเเต้มมาหยุดที่ 4-4 เเต่ว่าหลังจากนั้นกลายเป็นทาง ทีมสาวไทย ที่เริ่มโชว์ฟอร์มเก่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำเเต้มของ ดารณี จนท้ายที่สุดเอาชนะไปได้ 21-10 คะเเนน ส่วนในเซ็ตที่ 2 ทีมสาวจีน เริ่มกลับมามีฮึดบ้างเเต่ว่า ทีมสาวไทย ก็ยังเป็นฝ่ายคุมเกมเเละทำเเต้มขึ้นนำได้ตลอดจนสุดท้ายชนะไปอีก 21-16 ส่งผลให้ ทีมชาติไทย ขึ้นนำ 1-0 ทีม
ทีมชุดบี ประกอบด้วย ธิดาวรรณ ดาวสกุล เป็นหน้าขวา นรีรัตน์ ดาขัน เป็นหน้าซ้าย เเละ พิกุล สีดำ เป็นเเบ็ค เริ่มเกมเซ็ตเเรก ทีมสาวไทย เเละ ทีมสาวจีน ต่างผลัดกันทำเเต้มอย่างสนุกจนมาเสมอกันที่ 15-15 เเต่ว่าช่วงท้ายเกมเป็น สาวไทย ซึ่งอาศัยจังหวะทำที่เฉียบคมเก็บได้ 3 คะเเนนรวด เเละเอาชนะไป 21-17 ขณะที่ในเซ็ต 2 ทั้งคู่เริ่มต้นได้อย่างสูสีกันอีกครั้งก่อนที่เเต้มจะมาเท่ากันที่ 5-5 เเต่หลังจากนั้นเป็นทาง สาวไทย ที่เครื่องร้อนค่อยๆทำเเต้มทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆก่อนจะเอาชนะไปแบบๆไม่ยากเย็นนัก 21-11 ส่งผลให้ ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติจีน ไปได้ 2-0 ทีม คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ
เฮดโค้ชพอใจ ทีมสาวไทย ท็อปฟอร์มต้อน ทีมสาวจีน
นาย วีรัส ณ หนองคาย หัวหน้าโค้ชทีมเซปักตะกร้อหญิงไทย เเสดงความพอใจเป็นอย่างยิ่งกับฟอร์มการเล่นเเละผลงานของ ทีมสาวไทย ที่สามารถคว้า เหรียญทอง "เอเชียนเกมส์ 2010" มาครองได้สำเร็จ หลังจากจัดการเอาชนะ ทีมชาติจีน ไปแบบขาดลอยใน รอบชิงชนะเลิศ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา "ผมรู้สึกดีใจมากกับผลการเเข่งขันที่จบลงไป วันนี้ผมพอใจฟอร์มการเล่นของลูกทีมทุกคนที่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเเม้ว่าจะต้องพบกับ เจ้าภาพ ผมยอมรับว่าทุกคนต้องลงเล่นภายใต้เเรงกดดันเเต่ในที่สุดก็สามารถเอาชนะได้สำเร็จ ซึ่งผมมั่นใจว่าพวกเราจะคว้าเหรียญทองมาครองได้อีก 1 เหรียญอย่างเเน่นอน ในการเเข่งขันประเภททีมเดี่ยว ส่วนในเรื่องของ เหรียญทองที่ 100 ของนักกีฬาไทยในการเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์" ตนเอง ก็เพิ่งรับทราบจากบรรดาสื่อสื่อมวลชน ซึ่งก็ต้องบอกว่าดีใจมาก"  
"บิ๊กอ๊อด" ยิ้มร่า ทีมตะกร้อสาวไทย ซิวเหรียญทองสำเร็จ
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย ร่วมเเสดงความยินดีกับ ทีมเซปักตะกร้อหญิงไทย ที่สามารถเอาชนะ ทีมชาติจีน ได้สำเร็จในรอบรองชนะเลิศ ของมหกรรมกีฬา "เอเชียนเกมส์ 2010" พร้อมคว้า เหรียญทอง ที่ 2 ของทัพนักกีฬาไทยมาครอง ซึ่งทาง "บิ๊กอ๊อด" กล่าวว่า "วันนี้ผมเดินทางมาที่นี่เเต่เช้าเลยเพราะว่าต้องการมาเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬา ผมดีใจมากจริงๆที่พวกเราสามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จอีก 1 เหรียญ ผมขอชื่นชมนักกีฬาทุกคนที่ทำหน้าที่กันได้อย่างดีเเม้ว่าจะต้องลงเเข่งขันกับ ทีมชาติจีน"
พร้อมลดเป้า เหรียญทองเหลือเเค่ 8 หลังตั้งเป้าไว้ถึง 16
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย ยอมรับว่าค่อนข้างจะเป็นไปได้ยากที่ทัพ นักกีฬาไทย จะสามารถคว้า เหรียญทอง มาครองได้ถึง 16 เหรียญตามที่ตั้งเป้าไว้ก่อนการเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์ 2010" พร้อมยืนยันชัดเจนว่าได้เพียงเเค่ 8 เหรียญทอง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจมากเเล้ว "ก่อนหน้านี้พวกเราอาจตั้งเป้าหมายไว้ที่ 16 เหรียญทอง เเต่ว่ามาถึงตอนนี้พวกเราเพิ่งจะทำได้เพียงเเค่ 2 เหรียญทองเท่านั้น ผมคิดว่าจากนี้ไปถ้าพวกเราสามารถเก็บเหรียญทองเพิ่มได้ถึง 8 เหรียญทอง มันก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจมากเเล้ว" 
กระตุ้นผู้เกี่ยวข้องดูเเลนักกีฬาอย่างจริงจัง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ยอมรับว่า บรรดานักกีฬาทีมชาติไทย จำเป็นต้องได้รับการดูเเลเอาใจใส่จาก รัฐบาล เเละ หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง อย่างจริงจัง หลังจากทำผลงานได้ไม่ดีนักในการเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์ 2010" รวมทั้งยังยอมรับว่าคู่เเข่งชาติอื่นๆพัฒนาศักยภาพเเละความเเข็งเเกร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว "ตอนนี้เราจะเห็นได้ว่า นักกีฬาของอินเดีย เเละ ฮ่องกง ล้วนเเล้วเเต่มีความสามารถเเละศักยภาพ ซึ่งพวกเราคงต้องยอมรับว่าชาติต่างๆเหล่านี้มีการพัฒนาที่ดี ซึ่งผมคิดว่าถ้าวงการกีฬาไทยยังไม่รีบดูเเลเอาใจใส่กันอย่างจริงจังก็อาจจะต้องมาคอยตามหลังชาติเล็กๆในอนาคต"
เตรียมเรียกประชุมหาสาเหตุของความล้มเหลว
พร้อมกันนี้ พล.อ. ยุทธศักดิ์ ได้เปิดเผยว่าหลังสิ้นสุดการเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์ 2010" คงต้องมีการเรียกตัวเเทนจากสมาคมกีฬาต่างๆเข้ามาประชุมเเละหารือเกี่ยวกับผลงานที่ทำได้ใน "กว่างโจวเกมส์" รวมทั้งสาเหตุเเละปัญหาที่ส่งผลให้หลายๆชนิดกีฬาทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานเเละเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนการเเข่งขัน
"บิ๊กจา" ตั้งเป้า ตะกร้อไทย กวาดทั้งหมด 4 เหรียญทอง
พล.ต. จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานเเละเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคเเห่งประเทศไทย ในฐานะนายกสมาคมตะกร้อเเห่งประเทศไทย กล่าวว่าจากนี้ไป ทีมนักกีฬาไทย จำเป็นต้องพยายามเเละทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกๆประเภทกีฬาที่เหลืออยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาได้ทราบกันดีอยู่เเล้วว่าการคว้าเหรียญรางวัลเป็นสิ่งที่ยากลำบากมาก พร้อมยังคาดหวังว่า ตะกร้อ จะสามารถคว้า เหรียญทอง มาครองได้ทั้งหมด 4 เหรียญ นอกจากนี้ พล.ต. ยังยืนยันว่าได้กำชับทีมผู้ฝึกสอนไปเเล้วเป็นที่เรียบร้อยเกี่ยวกับการจัดตัวนักกีฬาลงสนามเเข่งขัน เนื่องจากว่าถ้าประมาทเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาเเละพลาดเหรียญรางวัล
ทีมตะกร้อชายไทย ไม่ยอมน้อยหน้า ทีมหญิง จัดการคว้า เหรียญทอง มาครองได้เช่นเดียวกัน ในการเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์ 2010" รอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชุด หลังจากไล่ฟาดคู่ปรับตลอดกาลอย่าง มาเลเซีย ไปแบบสบายเท้า 2-0 ทีม
ทีมชุดเอ ประกอบด้วย อนุวัฒน์ ชัยชนะ, เกรียงไกร เเก้วเมียน เเละ ภัทรพงษ์ ยุพดี เซ็ตเเรกเปิดฉากมาอย่างคู่คี่เเละสูสี ทีมชาติไทย เเละ ทีมชาติมาเลเซีย สามารถทำเเต้มได้อย่างต่อเนื่องจนมาหยุดเสมอกันที่ 14-14 คะเเนน เเต่ว่าหลังจากนั้นกลายเป็น นักหวดไทย ที่เริ่มเครื่องร้อนเเละค่อยๆเก็บคะเเนนทิ้งห่างจนเอาชนะไปได้ในที่สุด 21-16 คะเเนน ส่วนในเซ็ตที่ 2 ทีมมาเลเซีย เริ่มออกอาการช็อตไปดื้อๆจนส่งผลให้ ทีมชาติไทย กอบโกยคะเเนนทิ้งห่างไปจนถึง 10-3 คะเเนน เเละหลังจากนั้น ทีมไทย ก็ยังทำได้ดีกว่าเเละเอาชนะไปได้ในที่สุด 21-16 คะเเนน ไทยขึ้นนำ 1-0 ทีม
มาถึงการเเข่งขันของ ทีมชุดบี ซึ่งประกอบด้วย พรชัย เขาเเก้ว, ศิริวัฒน์ สาขา เเละ สุริยันต์ เป๊ะชาญ เซ็ตเเรก ทีมชาติไทย เริ่มต้นได้ดีกว่าก่อนจะทำคะเเนนทิ้งห่าง ทีมชาติมาเลเซีย ออกไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากจังหวะขึ้นทำของ พรชัย ส่งผลให้เอาชนะไปได้ก่อน 21-15 คะเเนน เซ็ตที่ 2 ทีมมาเลเซีย เริ่มกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้งเเละทำเเต้มไล่เบียดกับ ทีมชาติไทย อย่างคู่คี่สูสีจนมาหยุดที่ 11-10 คะเเนน เเละจากนั้นทั้ง 2 ทีมก็ทำเเต้มไล่จี้ติดกันไปเรื่อยๆจนมาเท่ากันที่ 16-16 คะเเนน เเต่ว่าหลังจากนั้น ทีมชาติไทย ก็กลับมาเร่งเกมเเละทำเเต้มหนีห่างไปอีกครั้งเป็น 19-16 คะเเนน ก่อนจะเอาชนะได้ในที่สุด 21-17 ส่งผลให้สุดท้ายเเล้ว ทีมชาติไทยชุดบี เอาชนะไป 2-0 เซ็ต คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ
สรุปผลการเเข่งขัน เซปักตะกร้อชาย ประเภททีมชุด รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ไปได้ 2-0 ทีม
"สุริยัน" เปิดใจพร้อมอำลา ทีมชาติไทย หลังจบ "ซีเกมส์ 2011"
สุริยัน เป๊ะชาญ นักตะกร้อจอมเก๋าของทีมชาติไทย เปิดใจว่า ตนเอง รู้สึกปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ในการเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์ 2010" ประเภททีมชุด หลังจากเอาชนะ ทีมชาติมาเลเซีย ไปได้อย่างสุดมันส์ 2-0 ทีม เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ สุริยัน เป๊ะชาญ ยังยอมรับว่า ตนเอง น่าจะลงเเข่งขัน "เอเชียนเกมส์ 2010" เป็นสมัยสุดท้าย เพราะว่าที่ผ่านมาสร้างผลงานให้กับประเทศชาติมาเเล้วมากมาย เเละที่สำคัญตอนนี้ ตนเอง อายุ 36 ปีเเล้ว จึงคิดว่าน่าจะได้เวลาอำลาวงการสักที โดยตั้งเป้าที่จะลงรับใช้ ทีมชาติไทย ในศึก "ซีเกมส์ 2011" ที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นรายการการสุดท้าย
"กมล" โล่งใจ ทีมชาติไทย ป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
นายกมล ตันกิมหงส์ ผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อไทย เปิดเผยว่า เกมวันนี้รู้สึกพอใจกับผลงานของนักกีฬาที่สามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ และต้องขอชมเชยคู่หน้าอย่าง พรชัย เค้าแก้ว, สุริยัน เป๊ะชาญ และแบ็ก เกรียงไกร แก้วเมียน ที่สามารถคุมเกมช่วยน้องๆได้เป็นอย่างดี จนส่งผลให้มาเลเซียไม่สามารถทำอะไรได้เลย ซึ่งผมถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญที่นำทีมชาติไทยคว้าชัยชนะมาครอง
เฮดโค้ชตะกร้อไทย กล่าวว่า "เป็นไปอย่างที่คาดไว้ว่าเกมนี้ไม่ง่ายอย่างแน่นอนซึ่งเราก็เห็นแล้ว มาเลเซีย สร้างความกดดันให้เราได้มากเเค่ไหน เกมนี้ มาเลเซีย เล่นไม่เหมือนเกมแรก พวกเขาพยายามจะวัดแลกด้วยลูกเสิร์ฟแต่ทำไม่ได้และกลายเป็นกดดันตัวเอง"
เกรียงไกร-ภัทรพงษ์ มั่นใจมีลุ้นเหรียญทองทีมเดี่ยว
เกรียงไกร แก้วเมียน เเละ ภัทรพงษ์ ยุพดี สองนักตะกร้อคนเก่งของทีมชาติไทย ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจมากที่สามารถคว้า เหรียญทอง "เอเชียนเกมส์ 2010" มาครองได้สำเร็จ หลังจากมีส่วนสำคัญช่วยนำทัพเอาชนะ "เสือเหลือง" พร้อมกันนี้ทั้งคู่ยังเเสดงความมั่นใจว่า ทีมชาติไทย จะสามารถคว้าเหรียญทองในประเภททีมเดี่ยวมาครองได้อีก 1 เหรียญอย่างเเน่นอน
เเฟนตะกร้อไทยสุดเศร้าหลังตั๋วหมดอดเข้าชมในสนาม
บรรดาเเฟนตะกร้อไทยกว่า 200 คน ถึงกับต้องเศร้าไปตามๆกันหลังจากไม่สามารถเข้ามาชมการเเข่งขันภายในสนามได้สำเร็จ เนื่องจากว่าตั๋วเข้าชมได้ถูกจำหน่ายหมดไปแล้วก่อนหน้านี้ จึงทำให้บรรดากองเชียร์ต้องผิดหวังเเละยืนรออยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ซึ่งหลังจากการแข่งขันเสร็จสิ้นลงกองเชียร์บางส่วนก็ยังยืนเกาะรั้วเเละตะโกนส่งเสียงแสดงความยินดีกับนักกีฬาไทย จนกระทั่งขึ้นรถเดินทางกลับหมู่บ้านนักกีฬา
ทีมลูกพลาสติกหนุ่มไทยกระหึ่ม ครองเเชมป์เอเชียนเกมส์ 4 สมัยติดต่อกัน
จากชัยชนะเหนือ มาเลเซีย 2-0 ทีม ทำให้ทีมชุดชายไทยคว้าแชมป์เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 มาครองและเป็นแชมป์เอเชียนเกมส์ สมัยที่ 4 ติดต่อกัน โดยครั้งแรกได้ แชมป์ทีมชุดใน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 "บางกอกเกมส์" ที่กรุงเทพฯ ปี 2541, ครั้งที่สองในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 "บูซานเกมส์" ที่เมืองบูซาน เกาหลีใต้ ปี 2544 และหนที่สาม เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 15 "โดฮาเกมส์" ที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ ปี 2549 และทำให้ ทีมชาติไทย สร้างสถิติคว้า แชมป์ตะกร้อ มากที่สุด นับตั้งแต่การเเข่งขัน ตะกร้อ ถูกบรรจุเข้าสู่ เอเชียนเกมส์ เมื่อปี 2533 ที่ปักกิ่ง ประเทศจีน
ฟันอัดฉีดอื้อซ่า 36 ล้านบาท
นอกจากนี้ชัยชนะ 2 เหรียญทองของ ทีมชุดชาย กับ ทีมชุดหญิง ยังทำให้กีฬาตะกร้อจะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว ซึ่งเหรียญทองจะได้รับเงินอัดฉีดเหรียญละ 1 ล้านบาท และทีมชุดชาย 12 คน, ทีมชุดหญิง 12 คน จะทำให้ได้รับเงินอัดฉีด 24 ล้าน นอกจากนี้แล้ว สมาคมตะกร้อฯ จะได้ 30 เปอร์เซ็นต์ และผู้ฝึกสอนจะได้ 20 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ตะกร้อได้รับเงินอัดฉีดอีก 12 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่จะได้รับทั้งสิ้น 36 ล้านบาท
             การแข่งขันกีฬาซีเกมส์
ทีมเซปักตะกร้อหนุ่มไทย ยังไร้เทียมทาน ไล่ต้อนคู่รักคู่แค้นอย่าง "เสือเหลือง" มาเลเซีย ขาดลอย 2 ทีมรวด คว้าแชมป์ ซีเกมส์ มาครองเป็นสมัยที่ 12 สำเร็จ แถมยังเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกันอีกด้วย กมล ตันกิมหงษ์ ผู้ฝึกสอน ชมเปาะลูกทีมฟอร์มเยี่ยม เป้าหมายต่อไป กระชากทองทีมเดี่ยวได้แน่นอน ด้าน "โจ้ หลังเท้า" สืบศักดิ์ ผันสืบ แบ็กจอมเก๋า ลั่นยังไม่เลิกแน่ พร้อมรับใช้ชาติต่อไป จนถึง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ปีหน้า      การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทร์เกมส์" เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 52 ที่ผ่านมา เซปักตะกร้อ ประเภททีมชุด ที่ศูนย์ไอเทค ชิง 2 เหรียญทอง ประเภททีมชุดชาย ทีมชาติไทย พบกับ "เสือเหลือง" มาเลเซีย คู่รักคู่แค้นของไทย
 
โดยทีม ก ไทยส่งทีมเก่งลงลุยทันที นำโดย "โจ้หลังเท้า" ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ แบ็กจอมเก๋า คู่หน้ามี พรชัย เค้าแก้ว ตัวทำ และหน้าซ้ายชง สุริยัน เป๊ะชาญ ส่วนมาเลเซีย ส่งทีมเก่งลงแต่ต้นเช่นกัน นำโดยแบ็กดาวรุ่ง มูฮัมหมัด ไซอัซวาน บิน ฮูซิน, หน้าขวาทำ โมหมัด ฮามิไคริ บิน โมฮัมหมัด รอสลาน และหน้าซ้ายชง โมหมัด  ไซฟิค บิน อับดุล ราห์มาน ซึ่งทีมนี้ถือว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของมาเลเซีย
  
"โจ้" ฟอร์มพระเอกนำไทยเชือด 
เปิดฉากเซตแรก โจ้ หลังเท้า อาศัยลูกเคาะหยอด บวกกับเกมรับที่เหนียวแน่นของคู่หน้าพาทีมไทย ออกนำไปตั้งแต่ต้นและผ่านไปครึ่งทางนำ 11-7 หลังเวลานอกทางเทคนิคกลับลงสนามอีกรอบ แม้จะขยับหนีไม่ได้แต่ไทยยังไม่เสียแต้มให้มาเลเซียยังเป็นไทยนำที่ 14-9 และ 15-10 และสกอร์เริ่มขยับเมื่อ โจ้ เสิร์ฟพลิกเน็ตลงไป แม้ เสือเหลือง จะกลับไปได้บุกแต่แบ็กยังทะเลาะกับเน็ตไม่ได้สร้างความกดดันให้กับไทยแต่อย่างไรแต้มไทยหนีไปที่ 19-14 ต่อมา โจ้ เสิร์ฟดีผู้เล่นมาเล่นรับล้นมา พรชัย ขึ้นโขกไม่เหลือขึ้นแท่น 20-14 และปิดเกมด้วยลูกเสิร์ฟเบียดเส้นลงไปอย่างสวยงามเซตแรกไทยชนะ 21-14 นำ 1-0 เซต
   
ทีมเอไทยกระซวกเสือเละ 2-0  
เซตสอง ลูกเสิร์ฟของ สืบศักดิ์ ยังทำงานได้อย่างอันตรายกดดันผู้เล่นมาเลเซียเดินแต้มออกนำ 3-1 จากนั้นผลัดกันรุกรับทำแต้มและสกอร์ของไทยยังนำผ่าน 10-8 และต่อมาน่าจะได้แต้มอุตส่าห์แก้ไขดี สุริยัน งัดโด่งไปหน้าเน็ตแต่ พรชัย แตะติดบล็อกเฉย
 
อย่างไรก็ตาม บิน ฮูซิน เสิร์ฟออกในแต้มต่อมา ผ่านครึ่งทางไทยนำ 11-9 กลับลงสนามอีกครั้ง เกมยังสูสีเสือเหลือง ยังตามตื้อมาติดกระทั่งสกอร์ 13-11 โจ้ เสิร์ฟเปรี้ยงผู้เล่นมาเลย์ เปิดแฉลบออกหลังแต้ม 14-11 แต่เสือเหลืองมีดิ้นเรียกเสียงเชียร์กระหึ่ม เมื่อตามตีเสมอได้ที่ 14-14 ก่อนที่ พรชัย จะฟาดลงไปต่อมา สืบศักดิ์ เสิร์ฟพลิกเน็ต สกอร์ 16-14 กระทั่งสกอร์นำ 20-18 ไทยเก็บแต้มสุดท้ายเอาชนะไป 21-18 ก่อนปิดทีม เอ ไทย ชนะ 2-0 เซต
   
ไทยยังเหนือทีมบี ถล่มเสือ 21-15 
ทีม บี โค้ชไทยเซอร์ไพร์ส เมื่อส่งดาวรุ่งลงถึงสองคนคือ อนุวัฒน์ ชัยชนะ หน้าขวาทำ กับ ภัทรพงษ์ ยุพดี หน้าซ้ายลง ส่วนแบ็กเป็น เกรียงไกร แก้วเมียน ส่วนมาเลเซีย ประกอบด้วย แบ็ก อาหมัด ซูฟี บิน โมฮัมหมัด ฮาชิม, หน้าขวาทำ นอร์ชารุดดิน บิน กานี่ และ หน้าซ้ายชง ฟาร์ฮาน บิน อดัม
 
เริ่มเซตแรก เกรียงไกร แก้วเมียน ถล่มด้วยลูกเสิร์ฟทันทีทั้งหนัก หยอด แถมมีพลิกเน็ตไทยนำโด่ง 7-3 และเกมยังเป็นของไทยทำอะไรดีไปหมด แม้กระทั่ง เกรียงไกร ขึ้นมาบล็อกก็ยังทำได้ ผ่านครึ่งทางนำ 14-6 มาเลเซีย ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นส่ง นอร์ อัซมาน บิน อับดุล ฮามิด ไปยืนแบ็กเทน ฮาชิม และเกมเสือเหลืองดีขึ้นทันที ฮามิด เสิร์ฟสามแต้มรวดไล่มา 9-14 ก่อนที่ไทย จะเบรกเอาไว้ได้ และ เกรียงไกร ปั่นหยอดสู้ จากนั้นผลัดกันทำแต้มจนสกอร์ไทยนำ 20-15 อนุวัฒน์ ขึ้นบล็อกได้แต้มให้ไทยชนะ 21-15
   
ไฟดับ เกมสะดุดแต่ไทยยังขยี้ 21-17 
เซตสอง เกรียงไกร ทักทายด้วยลูกเสิร์ฟ ปั่นหยอด พาไทยทะยานนำ 6-4 ต่อมา เกรียงไกร ฟอร์มระเบิดเสิร์ฟทำ 3 แต้มติด ให้ไทยฉีกหนีไปเป็น 9-4 ก่อนจะเสิร์ฟพลิกเนต ออกข้างไปนิดเดียว กระทั่งสกอร์ มาอยู่ที่ไทยนำ 11-7 ไฟสนามก็เกิดดับ วูบลงเหลือ ส่องสว่างอยู่ไม่กี่ดวง ทำให้เกมต้องชะงักไปถึง 20 นาที กลับมาเล่นต่อ
 
เกรียงไกร ยังเสิร์ฟคมเก็บแต้มได้อีก กระทั่งนำห่างไปเป็น 19-14 แชมป์อยู่แค่เอื้อม มาเลเซีย เก็บมาได้อีกแต้ม ไทยก็ขึ้นแท่นเมื่อ ฮามิด เสิร์ฟออกสกอร์ 20-14 แต่ไทยยังทำไม่ได้ปล่อยให้มาเลย์ไล่มา 17-21 ก่อนที่ ฮามิด จะเสิร์ฟออกทำให้ไทยชนะ 21-17 จบเกมชนะ 2-0 เซต สรุปผลทีมชุด ไทย ชนะมาเลเซีย 2-0 ทีมคว้าแชมป์มาครอง
   
กระชากแชมป์เป็นสมัยที่ 12 
จากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ทีมตะกร้อชายไทย ได้ครองแชมป์ประเภททีมชุดแล้ว เป็นสมัยที่ 12 และเป็นแชมป์ 8 สมัยติด นับตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2536 (ซีเกมส์ ครั้งที่ 23 ที่ฟิลิปปินส์มีแข่งเฉพาะทีมเดี่ยว)
 
นายกมล ตันกิมหงษ์ ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย เผยหลังเกมว่า เกมวันนี้ถือว่านักกีฬาเล่นด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น กับมาเลเซีย ถือเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้อยู่แล้ว ครั้งนี้เขาก็พัฒนาขึ้นมามาก อนาคตน่ากลัวแน่นอน ส่วนดาวรุ่งของที่ส่งลงสนามครั้งแรกทั้ง อนุวัฒน์ กับ ภัทรพงษ์ นั้น เกมนี้ทั้งคู่สอบผ่านอนาคตจะเป็นกำลังสำคัญของไทย
   
เป้าหมายต่อไป ลั่นกระชากทองทีมเดี่ยว 
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่าในประเภททีมเดี่ยว ที่จะแข่งขันเป็นรายการต่อไปนั้น ได้วางตัวผู้เล่นไว้แล้วหรือยัง นายกมล กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างไร หลังเกมนี้จะมีการหารือกันกับทางสตาฟฟ์โค้ช และผู้จัดการทีมว่าจะใช้ผู้เล่นคนใดบ้างลงสู้ ซึ่งเป้าหมายของเรายังเหมือนเดิมคืออยากจะเก็บเหรียญทองสุดท้ายนี้ให้ได้ ถามว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนตนขอบอกว่าเรามั่นใจเต็มร้อย
   
"โจ้" ฟุ้งอยู่ยาวได้ถึงเอเชียนเกมส์  
ขณะที่ "โจ้ หลังเท้า" ร.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ แบ็กจอมเก๋าที่ผ่านเวทีซีเกมส์เป็นหนที่ 7 และคว้าเหรียญทองมาแล้ว 11 เหรียญ กล่าวว่า วันนี้พอใจกับฟอร์มการเล่นของตัวเองมาก ที่ทุ่มเทฝึกซ้อมมานานหลายเดือนหายเหนื่อยไปเลย และภูมิใจมากที่ประสบความสำเร็จกับทีมอีกครั้ง ส่วนประเภททีมเดี่ยว หากเป็นไปได้ ตนก็อยากจะได้เป็นหนึ่งในนั้น ที่ได้ลงแข่งขัน อยากได้เหรียญทองเหรียญที่ 12
 
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากนี้จะเลิกเล่นหรือไม่ สืบศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่คิดจะเลิกเล่นแต่อย่างใด แต่อยากจะรับใช้ชาติต่อไปอีกจนถึงเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กว่างโจว ประเทศจีนในปีหน้า
 
สรุปผลการแข่งขันเซปักตะกร้อ ประเภททีมชุด ทีมชุดหญิง ทอง ไทย, เงิน เวียดนาม, ทองแดง ลาว, ทีมชุดชาย ทอง ไทย, เงิน มาเลเซีย, ทองแดง เมียนมาร์  กับ อินโดนีเซีย

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


"โจ้" สืบศักดิ์ ผันสืบ จอมเสิร์ฟหลังเท้าบันลือโลกแย้มจบศึกซีเกมส์ที่ลาวปลายปีนี้จะหันหลังให้ทีมชาติ เนื่องจากอายุและหน้าที่การงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมากขึ้น รวมทั้งต้องการเปิดทางให้รุ่นน้องขึ้นมาแทน
หลังจากรับใช้ทีมชาติไทยในกีฬาเซปักตะกร้อมาอย่างยาวนานถึง 14 ปีเต็ม "เจ้าโจ้" สืบศักดิ์ ผันสืบ เจ้าของฉายา "จอมเสิร์ฟหลังเท้าบันลือโลก" ซึ่งแน่นอนว่าในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาวเป็นเจ้าภาพปลายปีนี้ ชื่อของ สืบศักดิ์ ยังคงเป็นขุมพลกำลังหลักให้ทีมชาติไทยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เนื่องจากเวลานี้ "เจ้าโจ้" ได้เลื่อนขั้นจากตำรวจชั้นประทวนมาเป็นชั้นสัญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเพิ่มมากขึ้น
ล่าสุด สืบศักดิ์ เปิดเผยอนาคตของตัวเองในการเป็นนักกีฬาเซปักตะกร้อว่า ทุกวันนี้แม้อายุจะมากขึ้นแต่ก็ยังดูแลรักษาสุขภาพตัวเองดี หมั่นออกกำลังกายเล่นฟิตเนสอยู่เสมอ ส่วนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ลาวปลายปีนี้ ส่วนตัวยังคงมุ่งมั่นที่จะเล่นอย่างเต็มที่เพื่อต้องการ 2 เหรียญทองจากประเภททีมชุดและทีมเดี่ยวมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้พี่น้องชาวไทย แม้จะต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งสำคัญอย่าง "เสือเหลือง" มาเลเซีย หรือพม่า ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของตัวเองแล้ว เพราะเล่นครั้งแรกมาตั้งแต่ซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ จ.เชียงใหม่ จนมาถึงซีเกมส์หนนี้เป็นสมัยที่ 7 แล้ว ถือว่าทำสถิติสูงสุดกว่ารุ่นพี่คนอื่นๆ ซึ่งพอใจแล้ว จากนั้นจะเปิดทางให้รุ่นน้องดาวรุ่งไฟแรง อย่าง ชิษณุพงศ์ สีหอม และ เรืองศักดิ์ ระวิโรจน์ เข้ามาโชว์ฝีเท้าแทนบ้าง เพราะนักกีฬาทั้งสองคนนี้มีแววอนาคตไกล หากรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองให้ดี ตั้งใจทุ่มเทให้การฟิตซ้อม ไม่เหลวไหลใจแตกไปก่อนรับรองอนาคตรุ่งโรจน์แน่ เจ้าของฉายาจอมเสิร์ฟลังเท้าบันลือโลก ยังกล่าวอีกว่า หลังการรับใช้ชาติแล้วเวลานี้ยังไม่เบนเข็มไปเป็นโค้ชเหมือนนักกีฬาคนอื่นๆ เพราะยังมีงานข้าราชการตำรวจต้องดูแลรับผิดชอบ แต่หากมีเวลาและโอกาสก็จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่รุ่นน้องๆ ที่สนใจ เพราะรับใช้ชาติมายาวนานกว่า 10 ปี น่าจะมีเคล็ดลับดีๆ ถ่ายทอดให้แก่ผู้สนใจได้
"ผมตอบได้เลยว่าการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้จะเป็นการรับใช้ชาติครั้งสุดท้ายของผม เพราะเวลานี้อายุผมมากขึ้น น่าจะเปิดโอกาสให้รุ่นน้องคนอื่นๆ ขึ้นมาทดแทนบ้าง เนื่องจากรุ่นน้องหลายคน อย่าง ชิษณุพงศ์ สีหอม หรือ เรืองศักดิ์ ระวิโรจน์ กำลังดีวันดีคืน หากได้รับการพัฒนาอย่างถูกวิธีน่าจะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยได้ ส่วนตัวผมหากเลิกทีมชาติก็คงยังไม่ไปเป็นโค้ช คงจะทุ่มเทเวลาให้งานประจำที่หน้าที่การงานเริ่มมากขึ้น แต่หากมีเวลาหรือมีใครอยากได้เทคนิคก็พร้อมที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้เต็มที่

วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

การเล่นเป็นทีม
      ผู้เล่นจะล้อมเป็นวง ผู้เริ่มต้นจะใช้เท้าเตะลูกตะกร้อไปให้อีกผู้หนึ่งรับ ผู้รับจะต้องมีความว่องไวในการใช้เท้ารับและเตะส่งไปยังอีกผู้หนึ่ง จึงเรียกวิธีเล่นนี้ว่า "เตะตะกร้อ" ความสนุกอยู่ที่การหลอกล่อที่จะเตะไปยังผู้ใด ถ้าผู้เตะทั้งวงมีความสามารถเสมอกัน จะโยนและรับไม่ให้ตะกร้อถึงพื้นได้เป็นเวลานานมาก กล่าวกันว่าทั้งวันหรือทั้งคืนก็ยังมี แต่ผู้เล่นยังไม่ชำนาญก็โยนรับได้ไม่กี่ครั้ง ลูกตะกร้อก็ตกถึงพื้น
การติดตะกร้อ(เล่นเดี่ยว)
       การเล่นตะกร้อที่มีชื่อเสียงมากของไทยคือ การติดตะกร้อ เป็นศิลปะการเล่นตะกร้อ คือ เตะตะกร้อให้ไปติดอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย และต้องถ่วงน้ำหนักให้อยู่นาน แล้วใช้อวัยวะส่วนนั้นส่งไปยังส่วนอื่น โดยไม่ให้ตกถึงพื้น เช่น การติดตะกร้อที่หลังมือ ข้อศอก หน้าผาก จมูก เป็นต้น นับว่าเป็นศิลปที่น่าชม ผู้เล่นต้องฝึกฝนอย่างมาก
ตะกร้อติดบ่วง
      การเตะตะกร้อติดบ่วง ใช้บ่วงกลมๆแขวนไว้ให้สูงสุด แต่ผู้เล่นจะสามารถเตะให้ลอดบ่วงไปยังผู้อื่นได้ กล่าวกันว่าบ่วงที่เล่นเคยสูงสุดถึง 7 เมตร และยิ่งเข้าบ่วงจำนวนมากเท่าไรยิ่งแสดงถึงความสามารถ
 ท่าเตะ     ท่าเตะตะกร้อมีหลายท่าที่แสดงให้เห็นถึงความงดงามและความว่องไว ตามปกติจะใช้หลังเท้า แต่นักเล่นตะกร้อจะมีวิธีเตะที่พลิกแพลง ใช้หน้าเท้า เข่า ไขว้ขา(เรียกว่าลูกไขว้) ไขว้ขาหน้า ไขว้ขาหลัง ศอก ข้อสำคัญ คือ ความเหนียวแน่นที่ต้องรับลูกให้ได้เป็นอย่างดีเมื่อลูกมาถึงตัว ผู้เล่นมักฝึกการเตะตะกร้อด้วยท่าต่าง ๆ ลีลาในการเตะตะกร้อมี 4 แบบ คือ การเตะเหนียวแน่น (การรับให้ได้อย่างดี) การเตะแม่นคู่ (การโต้ตรงคู่) การเตะดูงามตา (ท่าเตะสวย มีสง่า) การเตะท่ามาก (เตะได้หลายท่า)
   ลูกตะกร้อ    ทรงกลม มีเส้นรอบวง 42 - 44 ซม. มี 12 รูกับ 20 จุดไขว้ตัด ทำด้วยหวายหรือใบสังเคระห์ ถ้าเป็นหวายต้องมี 9 - 11 เส้น น้ำหนัก 170 - 180 กรัม   เครื่องแต่งกาย    สวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ต้องเอาชายเสื้อไว้ในกางเกงตลอดเวลา ห้ามใช้อุปกรณ์ช่วยในการเคลื่อนไหว และการเร่งความเร็วของลูกตะกร้อ หัวหน้าทีมต้องใส่ปลอกแขนที่แขนเสื้อด้านซ้าย ติดหมายเลขด้านหลัง 1 - 15



กติกาตะกร้อ


    ผู้เล่น    ประเภทเดี่ยว มีผู้เล่นตัวจริง 3 คน สำรอง 1 คน ประเภททีม ประกอบด้วย 3 ทีม มีผู้เล่น 9 คน และผู้เล่นสำรอง 3 คน
    ตำแหน่งของผู้เล่น มี 3 ตำแหน่งคือ
1 หลัง ( Back ) เป็นผู้เตะตะกร้อจากวงกลม2 หน้าซ้าย3 หน้าขวา
       การเปลี่ยนตัวผู้เล่น
   ในทีมเดี่ยวเปลี่ยนตัวได้ 1 คน และถ้าเหลือน้อยกว่า 3 คน ถือว่าแพ้ ผู้มีชื่อในทีมเดี่ยวที่เล่นมานานแล้ว จะลงเล่นในทีมเดี่ยวต่อไปไม่ได้
    การเสี่ยงและการอบอุ่นร่างกาย
       มีการเสี่ยง ผู้ชนะการเสี่ยงจะได้เลือกข้างหรือส่งลูก ทีมที่ได้ส่งลูกจะได้อบอุ่นร่างกายก่อน เป็นเวลา 2 นาที พร้อมเจ้าหน้าที่และนักกีฬาไม่เกิน 5 คน       ตำแหน่งของผู้เล่นระหว่างการส่งลูกเสิร์ฟ           เมื่อเริ่มเล่นทั้ง 2 ทีมพร้อมในแดนของตนเอง ผู้เล่นฝ่ายเสิร์ฟจะต้องอยู่ในวงกลมของตนเอง เมื่อเสิร์ฟแล้วจึงเคลื่อนที่ได้ ส่วนผู้เล่นฝ่ายรับจะยืนที่ใดก็ได้

วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประโยชน์และความมุ่งหมายของกีฬาตะกร้อประโยชน์


ในประเทศไทย พลเมืองส่วนมากชอบที่จะดูและเล่นตะกร้อกันโดยทั่วไป แต่การที่จะเล่นให้ได้ดีต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและยาวนาน กีฬาตะกร้อเป็นกีฬาที่สนุกสนานต่อเนื่องเล่นได้ไม่จำกัด เพียงแต่เราฝึกหัดเบื้องต้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเล่นกีฬาตะกร้อได้แล้ว ราคาของอุปกรณ์ที่ถูกและทนทานใช้สถานที่ในการเล่นน้อย มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น
 ช่วยให้ประสาททุกส่วนว่องไวและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น
           ช่วยในการทรงตัว
 ช่วยด้านจิตใจ สุขุม รู้แพ้รู้ชนะ การให้อภัย
 ลดความเครียด
 ทำให้ร่างกายแข็งแรง

ความมุ่งหมาย
กีฬาตะกร้อนั้นอาจจะสรุปความมุ่งหมายในธรรมชาติของกีฬาตะกร้อได้อย่างกว้างๆดังนี้คือ
 เล่นง่าย คือเล่นสนุกสนานแต่ถ้าเล่นให้ได้ดีก็ควรต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
 ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ในการเล่น
 ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์และเวลาในการเล่น
 ทำให้เกิดการตื่นตัว
 ทำให้จิตใจสุขุมเยือกเย็น
 มีระบบในการตัดสินใจรวดเร็วและถูกต้อง
 ทำให้มีระบบประสาททางความคิดดี
 มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงไร้โรคภัยต่างๆ
 ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน 
ทำให้เกิดความสามัคคีทั้งในหมู่คณะและส่วนรวม
 ทำให้รู้จักการรวมกลุ่มในสังคม การเข้าสังคม
 รู้จักการสร้างความปลอดภัยในการเล่น
 ใช้เป็นแนวทางในการเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ฟุตบอล
 สามารถใช้เป็นแนวทางในการถ่ายทอดศิลปะและอนุรักษ์ศิลปะประจำชาติได้อีกด้วย

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประโยชน์และความมุ่งหมายของกีฬาตะกร้อ
ในประเทศไทย พลเมืองส่วนมากชอบที่จะดูและเล่นตะกร้อกันโดยทั่วไป แต่การที่จะเล่นให้ได้ดีต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและยาวนาน กีฬาตะกร้อเป็นกีฬาที่สนุกสนานต่อเนื่องเล่นได้ไม่จำกัด เพียงแต่เราฝึกหัดเบื้องต้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถเล่นกีฬาตะกร้อได้แล้ว ราคาของอุปกรณ์ที่ถูกและทนทานใช้สถานที่ในการเล่นน้อย มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น
ช่วยให้ประสาททุกส่วนว่องไวและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น
ช่วยในการทรงตัว
ช่วยด้านจิตใจ สุขุม รู้แพ้รู้ชนะ การให้อภัย 
ลดความเครียด
ทำให้ร่างกายแข็งแรง
ความมุ่งหมาย
กีฬาตะกร้อนั้นอาจจะสรุปความมุ่งหมายในธรรมชาติของกีฬาตะกร้อได้อย่างกว้างๆดังนี้คือ
 เล่นง่าย คือเล่นสนุกสนานแต่ถ้าเล่นให้ได้ดีก็ควรต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
 ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ในการเล่น
 ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์และเวลาในการเล่น
 ทำให้เกิดการตื่นตัว
 ทำให้จิตใจสุขุมเยือกเย็น
 มีระบบในการตัดสินใจรวดเร็วและถูกต้อง
 ทำให้มีระบบประสาททางความคิดดี
 มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงไร้โรคภัยต่างๆ
 ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน
 ทำให้เกิดความสามัคคีทั้งในหมู่คณะและส่วนรวม
 ทำให้รู้จักการรวมกลุ่มในสังคม การเข้าสังคม
 รู้จักการสร้างความปลอดภัยในการเล่น
 ใช้เป็นแนวทางในการเล่นกีฬาชนิดอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ฟุตบอล
 สามารถใช้เป็นแนวทางในการถ่ายทอดศิลปะและอนุรักษ์ศิลปะประจำชาติได้อีกด้วย